การทำงาน ของ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

วงการธุรกิจ

นายณัฏฐพล เป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารกิจการกระเบื้องคัมพานา พรมไทปิง และพรม Royal Thai เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน) และ กรรมการบริหาร บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรีย์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รอยัลไทย จำกัด ประจำสาขาดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูแลการขยายตลาดพรม แบรนด์ "Royal Thai" ในพื้นที่ประเทศตะวันออกกลาง โดยประสานกับพาร์ตเนอร์ต่างประเทศจากดูไบ คือ เดป้า อินทีเรีย ในเครือเดป้ายูไนเต็ดกรุ๊ป บริษัทออกแบบตกแต่งภายในรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และติดอันดับ Top 5 ของโลก

วงการการเมือง

นายณัฎฐพล ผันตัวเองเข้าสู่วงการเมืองโดยลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งแรก ในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 4 ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยแพ้ นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และภายหลังการเลือกตั้ง นายณัฏฐพล ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ให้ดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาในการเลือกตั้งซ่อม 11 มกราคม พ.ศ. 2552 นายณัฏฐพล ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งและได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 10 (ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ จอมทอง บางบอน บางขุนเทียน) ได้รับคะแนนมากกว่า นายจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ประมาณ 2 หมื่นคะแนน

ในปี พ.ศ. 2553 นายณัฎฐพล เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยในการเลือกตั้งครั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง ส.ก. 45 เขตเลือกตั้ง จาก 61 เขตเลือกตั้ง และชนะการเลือกตั้ง ส.ข. 210 คน จากที่มีการจัดการเลือกตั้ง 256 คน ใน 36 เขต[2]

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 นายณัฏฐพลลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 26 (ราษฎร์บูรณะ ทุ่งครุ) โดยได้คะแนน 46,910 คะแนน เอาชนะนายนพสรัญ วรรณศิริกุล จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนน 45,092 คะแนน[3] ซึ่งต่อมานายณัฏฐพลได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นแกนนำการชุมนุมคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรม

ต่อมา นายณัฏฐพลได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2561

ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 นายณัฏฐพลเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ และได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[4]

ในวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 นายณัฏฐพลได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ[5]

วงการกีฬา

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ มีชื่อเรียกในวงการกีฬาว่า "บิ๊กตั้น" เริ่มต้นจากการดำรงตำแหน่ง เหรัญญิกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ในยุค ดร.ณัฐ อินทรปาณ นายกสมาคมฯ คนก่อน โดยได้เข้าไปปรับกระบวนการการเงินของสมาคม ปรับปรุงสิทธิประโยชน์นักกีฬา และปรับปรุงการหาแหล่งเงินทุนสนับสนุน ต่อมา ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ พี่ชายคนโตของภรรยา ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมฯ ช่วงต้นปี พ.ศ. 2550 นายณัฏฐพลได้รับเลือกให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดการทีมชาติไทย นำทีมนักกีฬาเทควันโดไทย เข้าร่วมการแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์โลก ดับเบิลยูทีเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2007 ระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ผลการแข่งขันทีมชาติไทยได้ครองอันดับ 2 รองจากประเทศเกาหลีใต้ โดยมีนักกีฬาจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 70 ประเทศ

ในส่วนของวงการฟุตบอล นายณัฏฐพล เคยเป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลบางกอกเอฟซีระหว่างปี พ.ศ. 2554-2559 พร้อมกับเป็นกรรมการกลาง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2558-2559 โดยสามารถนำทีมชาติไทยชุดเล็กคว้าแชมป์ ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี (AFF U-19 Youth Championship) ปี 2015 ที่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้สำเร็จ

ใกล้เคียง

ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ณัฐพล ไรยวงค์ ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์ ณัฐพล นาคพาณิชย์ ณัฐพล เกียรติวินัยสกุล ณัฐพล สุวะดี ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล ณัฐพล พุทธภาวนา ณัฐพล ลียะวณิช